Text Practice Mode
0
Rating visible after 3 or more votes
00:00
เมื่อได้ยินคุณพ่อคุณแม่คุยกันเรื่อง แอนดรูว์น้องชายของ เทสส์ในวัย 8 ขวบ ก็รับรู้ว่าแอนดรูว์กำลังป่วยมาก และทั้งพ่อแม่ก็ไม่มีเงินเหลือติดตัวเลย แถมเดือนหน้ายังจะต้องโดนย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นท์ เพราะพ่อหมดปัญญาที่จะหาเงินมาจ่ายค่าหมอและค่าเช่าบ้านนี้ หนทางเดียวที่จะช่วยชีวิตแอนดรูว์ได้ก็คือ การผ่าตัดซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงมาก และดูเหมือนว่าจะไม่มีใคร จะมาหยิบยื่นอะไรให้แก่ครอบครัวนี้เลย แต่เทสส์ก็แอบได้ยินพ่อกระซิบกับแม่ที่มีน้ำตานองว่า ”ในตอนนี้...คงมีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะช่วยแอนดรูว์ได้” เทสส์จึงตรงไปยังห้องนอนของเธอและหยิบขวดโหลเจลลี่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ แล้วแม่หนูก็เทเศษสตางค์ทั้งหมดลงบนพื้นห้อง ค่อยๆ นับ...ถึง 3 ครั้ง ก็ได้จำนวนเท่าเดิมแล้วบรรจงเก็บใส่ ขวดโหลและปิดฝาตามเดิม เธอผลุนผลันวิ่งไปไกลถึง 6 บล็อกเพื่อไปยังร้านขายยา ที่มีสัญลักษณ์รูปหัวหน้าอินเดียนแดงติดอยู่บนประตูทางเข้า
เทสส์นั่งรอเภสัชกรอย่างอดทนแต่เขาช่างดูยุ่งเสียเหลือเกิน เธอจึงขยี้เท้าไปมาแต่เสียงนั้นก็ไม่ช่วยอะไรเธอเลย ลองกระแอมดู แต่ก็ไร้ผลเช่นเคย ในที่สุดเธอก็เอาเหรียญ 25 เซนต์ออกมาจากขวดโหล แล้วเคาะกับเคาน์เตอร์กระจก... ได้การล่ะ.. เภสัชกรหันมาถามด้วยเสียงรำคาญๆ ว่า ”หนูจะเอาอะไรเหรอ ฉันกำลังคุยกับน้องชายที่เพิ่งมาจากชิคาโก เราไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว” เขาพูดต่อโดยมิทันที่จะรอคำตอบจากหนูน้อย ”ค่ะ.. หนูอยากจะคุยเรื่องน้องชายของหนู” เทสส์ตอบด้วยเสียงเนือยพอกัน “เขาป่วยหนักมากหนูเลยอยากจะมาขอซื้อปาฏิหาริย์” “อะไรนะ” เภสัชกรถามขึ้น ”เขาชื่อแอนดรูว์ค่ะ หนูรู้แต่ว่าเขามีอะไรก็ไม่รู้อยู่ในหัวใจ ได้ยินพ่อพูดว่า มีเพียงปฏิหาริย์เท่านั้นที่จะช่วยชีวิตเขาได้ เจ้าปาฏิหาริย์นี้ราคาเท่าไรค่ะ” ”หนู ..เราไม่ได้ขายปาฏิหาริย์หรอก ขอโทษนะฉันช่วยเธอไม่ได้หรอก” เภสัชกรคนเดิมตอบเสียงนุ่มขึ้น ”แต่หนูมีเงินจ่ายนะคะ ถึงมันจะไม่พอ แต่หนูจะเอาที่เหลือมาให้อีก เพียงแต่ช่วยบอกหนูหน่อยเถอะว่า ราคาเท่าไร” น้องชายของเภสัชกรผู้แต่งตัวภูมิฐานที่นั่งฟังมาโดยตลอดก้มลงถามแม่หนูว่า “น้องชายของหนูอยากได้ปาฏิหาริย์แบบไหนเหรอ” ”หนูไม่ทราบค่ะ” ถึงตอนนี้น้ำตาเธอเริ่มเอ่อแล้ว ”หนูรู้แต่ว่า เขาป่วยหนักมาก แม่บอกว่า เขาต้องได้รับการผ่าตัดแต่พ่อไม่มีเงินจ่ายค่าหมอ หนูก็เลยอยากใช้เงินของหนูเองค่ะ”
”แล้วหนูมีอยู่เท่าไรล่ะ” ชายจากชิคาโกถามต่อ
”1 ดอลลาร์ กับ 11 เซนต์ค่ะ” เทสส์ตอบอย่างไม่เต็มเสียง
”มันเป็นเงินเก็บทั้งหมดที่หนูมีอยู่..แต่หนูจะหามาอีกถ้าเกิดจะต้องใช้มากกว่านั้น”
”อืมม.. ช่างบังเอิญแท้ๆ” ชายผู้นั้นยิ้ม
“1 ดอลลาร์ 11เซนต์ ช่างพอเหมาะพอเจาะกับราคาของปาฏิหาริย์เสียจริง “
เขากำเงินจำนวนนั้นในมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งฉวยถุงมือของแม่หนูพร้อมกับบอกว่า
“เอาละพาฉันไปที่บ้านหน่อย ฉันอยากพบพ่อแม่ของหนู เราจะมาดูกันว่าฉันจะมีปาฏิหาริย์อย่างที่หนูต้องการหรือเปล่า”
ที่แท้ชายภูมิฐานผู้นั้นคือ คุณหมอคาร์ลตัน อาร์มสตรอง ศัลยประสาทแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การผ่าตัดเสร็จสมบูรณ์โดยไม่ได้ใช้เงินเลยสักแดง แอนดรูว์สามารถกลับบ้านได้ภายในเวลาไม่นานนัก ทั้งยังมีสุขภาพแข็งแรงดี
พ่อกับแม่ดูมีความสุขมากที่ได้คุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ”การผ่าตัดนี้..เป็นเหมือนดังปาฏิหาริย์ ฉันสงสัยจังว่ามันน่าจะต้องใช้เงินสักเท่าไรนะ” แม่พูดกับตัวเอง เทสส์ยิ้ม เธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่า ปาฏิหาริย์นี้มีมูลค่าเท่าไร..
1 ดอลลาร์ 11 เซนต์.. บวกกับความศรัทธา ของเด็กน้อยคนหนึ่ง
ปาฏิหาริย์มิใช่สิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้กฎธรรมชาติ หากอยู่เหนือกฎธรรมชาติ
เทสส์นั่งรอเภสัชกรอย่างอดทนแต่เขาช่างดูยุ่งเสียเหลือเกิน เธอจึงขยี้เท้าไปมาแต่เสียงนั้นก็ไม่ช่วยอะไรเธอเลย ลองกระแอมดู แต่ก็ไร้ผลเช่นเคย ในที่สุดเธอก็เอาเหรียญ 25 เซนต์ออกมาจากขวดโหล แล้วเคาะกับเคาน์เตอร์กระจก... ได้การล่ะ.. เภสัชกรหันมาถามด้วยเสียงรำคาญๆ ว่า ”หนูจะเอาอะไรเหรอ ฉันกำลังคุยกับน้องชายที่เพิ่งมาจากชิคาโก เราไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว” เขาพูดต่อโดยมิทันที่จะรอคำตอบจากหนูน้อย ”ค่ะ.. หนูอยากจะคุยเรื่องน้องชายของหนู” เทสส์ตอบด้วยเสียงเนือยพอกัน “เขาป่วยหนักมากหนูเลยอยากจะมาขอซื้อปาฏิหาริย์” “อะไรนะ” เภสัชกรถามขึ้น ”เขาชื่อแอนดรูว์ค่ะ หนูรู้แต่ว่าเขามีอะไรก็ไม่รู้อยู่ในหัวใจ ได้ยินพ่อพูดว่า มีเพียงปฏิหาริย์เท่านั้นที่จะช่วยชีวิตเขาได้ เจ้าปาฏิหาริย์นี้ราคาเท่าไรค่ะ” ”หนู ..เราไม่ได้ขายปาฏิหาริย์หรอก ขอโทษนะฉันช่วยเธอไม่ได้หรอก” เภสัชกรคนเดิมตอบเสียงนุ่มขึ้น ”แต่หนูมีเงินจ่ายนะคะ ถึงมันจะไม่พอ แต่หนูจะเอาที่เหลือมาให้อีก เพียงแต่ช่วยบอกหนูหน่อยเถอะว่า ราคาเท่าไร” น้องชายของเภสัชกรผู้แต่งตัวภูมิฐานที่นั่งฟังมาโดยตลอดก้มลงถามแม่หนูว่า “น้องชายของหนูอยากได้ปาฏิหาริย์แบบไหนเหรอ” ”หนูไม่ทราบค่ะ” ถึงตอนนี้น้ำตาเธอเริ่มเอ่อแล้ว ”หนูรู้แต่ว่า เขาป่วยหนักมาก แม่บอกว่า เขาต้องได้รับการผ่าตัดแต่พ่อไม่มีเงินจ่ายค่าหมอ หนูก็เลยอยากใช้เงินของหนูเองค่ะ”
”แล้วหนูมีอยู่เท่าไรล่ะ” ชายจากชิคาโกถามต่อ
”1 ดอลลาร์ กับ 11 เซนต์ค่ะ” เทสส์ตอบอย่างไม่เต็มเสียง
”มันเป็นเงินเก็บทั้งหมดที่หนูมีอยู่..แต่หนูจะหามาอีกถ้าเกิดจะต้องใช้มากกว่านั้น”
”อืมม.. ช่างบังเอิญแท้ๆ” ชายผู้นั้นยิ้ม
“1 ดอลลาร์ 11เซนต์ ช่างพอเหมาะพอเจาะกับราคาของปาฏิหาริย์เสียจริง “
เขากำเงินจำนวนนั้นในมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งฉวยถุงมือของแม่หนูพร้อมกับบอกว่า
“เอาละพาฉันไปที่บ้านหน่อย ฉันอยากพบพ่อแม่ของหนู เราจะมาดูกันว่าฉันจะมีปาฏิหาริย์อย่างที่หนูต้องการหรือเปล่า”
ที่แท้ชายภูมิฐานผู้นั้นคือ คุณหมอคาร์ลตัน อาร์มสตรอง ศัลยประสาทแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การผ่าตัดเสร็จสมบูรณ์โดยไม่ได้ใช้เงินเลยสักแดง แอนดรูว์สามารถกลับบ้านได้ภายในเวลาไม่นานนัก ทั้งยังมีสุขภาพแข็งแรงดี
พ่อกับแม่ดูมีความสุขมากที่ได้คุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ”การผ่าตัดนี้..เป็นเหมือนดังปาฏิหาริย์ ฉันสงสัยจังว่ามันน่าจะต้องใช้เงินสักเท่าไรนะ” แม่พูดกับตัวเอง เทสส์ยิ้ม เธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่า ปาฏิหาริย์นี้มีมูลค่าเท่าไร..
1 ดอลลาร์ 11 เซนต์.. บวกกับความศรัทธา ของเด็กน้อยคนหนึ่ง
ปาฏิหาริย์มิใช่สิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้กฎธรรมชาติ หากอยู่เหนือกฎธรรมชาติ
saving score / loading statistics ...